• Forum
  • News
  • Custom
  • TP
 V 
ค้นหา:  
  • หน้าแรก
  • ช่วยเหลือ
  • Search
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
เมษายน 21, 2018, 06:41:56 am

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
Natural Handmade Soap - HokkoriSoap      
Mother Corner - เว็บบอร์ดเพื่อคุณแม่คุณภาพ ข้อมูลตั้งครรภ์ - นมแม่ - ทุกประสบการณ์ของคุณมีความหมายที่ MotherCorner.com > Special Corner > Cafe (ผู้ดูแล: janistar) > ขงจื้อ : สู่ความเป็นเลิศเหนือคน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ขงจื้อ : สู่ความเป็นเลิศเหนือคน  (อ่าน 8184 ครั้ง)
superbee
พ่อแม่มือใหม่
*
กระทู้: 41



ขงจื้อ : สู่ความเป็นเลิศเหนือคน
« เมื่อ: กันยายน 24, 2014, 11:53:40 am »

ขงจื้อ : สู่ความเป็นเลิศเหนือคน

Excerpt จากรายการ New Dimensions
FM 96.5 ทุกวันอาทิตย์เวลา 9.00 – 10.00 น.
โดย ดร.บุญชัย โกศลธนากุล


ขงจื้อ : สู่ความเป็นเลิศเหนือคน
10 -17 กุมภาพันธ์ 2556
                บทความที่นำเสนอสรุปประเด็นจากหนังสือเรื่อง The Essential Confucius แต่งโดย Thomas Cleary ผู้แต่งได้รวบรวมคำสอนที่สำคัญ ๆ ของปรมาจารย์ขงจื๊อเกี่ยวกับคุณธรรมที่ควรปลูกฝังไว้ในจิตใจมนุษย์ มีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้
                1. จงอย่าใส่ใจว่า คนอื่นจะมองว่าเราเป็นคนอย่างไร มีชื่อเสียงมากน้อยแค่ไหน หรือมีฐานะอย่างไร แต่ให้สนใจว่า ตัวเราเองมีค่าควรแก่การ “ใส่ใจหรือให้ความเคารพนับถือ” แล้วหรือยัง
                2. ชื่อเสียงเงินทองที่ได้มาด้วยการคดโกงย่อมไม่ยั่งยืนหรือมีคุณค่าอันใด และไม่ต่างจากเมฆบนท้องฟ้าที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
                3. บุคคลที่เราควรให้ความเคารพ ควรจะเป็นคนที่จะใส่ใจในเรื่องความซื่อตรงและยุติธรรม มากกว่าเรื่องลาภยศสรรเสริญ
                4. คนดีจะเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แต่ไม่สุรุ่ยสุร่าย ขยันขันแข็งโดยไม่อึดอัดทรมาน มีเป้าหมายในชีวิตแต่ไม่ละโมบโลภมาก เป็นคนง่าย ๆ แต่ไม่อวดดี เป็นคนมีศักดิ์ศรีแต่ไม่โหดร้ายเป็นคนที่รู้จักเกรงอกเกรงใจคนอื่นโดยไม่เลือกปฏิบัติ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา จิตใจจะไม่มีความหยิ่งยะโสโอหัง
                5. ขงจื๊อเชื่อว่า เป็นการท้าทายที่จะพัฒนาตนเองให้มีพฤติกรรม 5 ประการดังต่อไปนี้
                   1) ทำตัวให้น่านับถือ พูดจามีสัมมาคารวะ มีการแต่งกายและการแสดงออกที่ถูกต้องตามกาละเทศะ
                   2) ทำอย่างไรจิตใจเราจะกว้างใหญไพศาล ไม่สนใจเรื่องหยุมหยิม แต่คงไว้ซึ่งความยุติธรรม ถ้าทำได้ตามนี้เราจะชนะใจคน
                   3) ทำอย่างไรจึงจะเป็นคนน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้
                   4) ทำอย่างไรจึงจะมีความเฉลียวฉลาด
                   5) ทำอย่างไรเราจะมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
                6. คนที่จิตใจได้รับการฝึกฝนและขัดเกลาแล้วจะไม่ใส่ใจมากนักในเรื่องการกินและการอยู่อย่างไรจึงจะสุขสบาย แต่จะจดจ่อที่หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ และมีการสำรวมระวังคำพูดอยู่เสมอ
                อย่าพูดจาทำร้ายจิตใจคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใกล้ชิดเรา เพราะจะเหมือนหอกข้างแคร่ที่จะทำให้เราบาดเจ็บได้ตลอดเวลา จงสั่งสอนตักเตือนคนที่เขาอยากจะพัฒนาตนเอง พูดในสิ่งที่เขาอยากจะฟัง พูดในสิ่งที่เขาฟังแล้วรู้เรื่อง หากเขามิใส่ใจที่จะพัฒนาตน ไม่อยากฟัง หรือฟังไม่รู้เรื่องก็ให้เราเงียบเสียและปล่อยวาง จงหมั่นเข้าหาพบปะพูดจากับผู้ที่เป็นกัลยาณมิตรหรือผู้มีคุณธรรม ฟังสิ่งที่เขาเหล่านั้นตักเตือน และจงนำมาปฏิบัติตาม
                7. หากจะต้องเลือกคบคนที่ตระหนี่ถี่เหนียว ยังดีกว่าเลือกคบคนที่สุรุ่ยสุร่าย สำมะเลเทเมา พยายามอย่าสุงสิงกับคนที่มีคุณธรรมและคุณภาพจิตใจต่ำกว่าเรา เพราะความคิด คำพูด และการกระทำของอีกฝ่ายย่อมกระทบกระเทือนจิตใจเราอย่างที่หลีกเลี่ยงเสียไม่ได้ จงเลือกคบคนที่มีคุณธรรม มีน้ำใจ มีความยุติธรรม ปากกับใจตรงกัน ไม่อิจฉาริษยา และรู้จักพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
                8. ผู้ที่มีคุณธรรมในจิตใจง่ายที่ทำงานด้วย แต่ยากที่จะประจบเอาใจ หากเราพยายามเอาใจอย่างผิดวิธีแล้วล่ะก็ คนที่มีคุณธรรมจะไม่ชอบหน้าเรา เพราะคนเหล่านี้จะใช้คนตรงตามความสามารถ และในทางกลับกัน คนที่มีจิตใจคับแคบ นิดนึงก็ไม่ได้ นิดนึงก็ไม่ยอม ยากที่จะทำงานด้วย แต่เอาใจง่ายมาก และแม้ว่าเราจะเอาใจอย่างผิด ๆ เขาก็ยังชอบเรา เพราะคนจำพวกนี้คำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นสำคัญ
                9. ย่อมเป็นการยากที่เราจะพัฒนาจิตใจให้มีความมั่นคงได้ ตราบเท่าที่เรายังมีความละโมบโลภมากในจิตใจ
                10. คนที่ไม่มีความเข้มแข็งทางด้านจิตใจมักจะยอมแพ้ระหว่างทาง เพราะเขาได้ตีกรอบไว้ให้ตนเองตั้งแต่ต้นแล้วว่าเขาจะไม่มีทางจะทำสำเร็จ
                11. คนที่ไม่รู้จักมองการณ์ไกลจะมีความกังวลอยู่กับเรื่องราวเฉพาะหน้า หรือเรื่องความสัมพันธ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไร้สาระเกี่ยวกับคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา เช่น ถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิตและมีการวางแผนล่วงหน้าว่าเราอยากจะทำอะไร เราจะรู้จักปล่อยวางไม่กังวลกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรเพื่อสิ่งใด เราจะรู้จักใช้เวลาอย่างคุ้มค่า และเราจะรู้จักเลือกคบคนไปโดยปริยาย ไม่ลอยไปลอยมาวันหนึ่ง ๆ
                12. “คนที่อยากให้คนเคารพยำเกรง แต่ไม่รู้จักการวางตัว คนเห็นก็จะเบื่อและเซ็ง
คนที่ระมัดระวังตลอดเวลา แต่ขาดกิริยาอันงดงามสำรวม จะมองดูเหมือนคนขี้ขลาดตาขาว
คนที่กล้าหาญบ้าบิ่น โดยไม่สนใจเรื่องกิริยามารยาท ดูแล้วป่าเถื่อน
คนที่ตรงไปตรงมา โดยไม่สำรวม ไม่ดูกาลเทศะ และไม่พิจารณาถึงผลที่จะตามมา กำลังจะฆ่าตัวเองตาย”
13. คนที่มีคุณธรรมจะไม่พะว้าพะวง คนที่มีความรู้จะไม่สับสน และคนที่กล้าหาญจะปราศจากความขลาดกลัว
14. คนที่ใจร้อน ไม่รอบคอบ และชอบทำตามอารมณ์จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน คนที่คิดเล็กคิดน้อย นิดนึงก็ไม่ได้นิดนึงก็ไม่ยอม ย่อมไม่สามารถทำการใหญ่ได้
15. ผู้ที่ต้องการยกระดับคุณภาพจิตใจพึงตระหนักถึงระเบียบวินัย 3 ประการ ดังนี้
1) ช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงที่พลังชีวิตยังไม่เสถียร ไม่ควรหมกมุ่นในเรื่องกามารมณ์
2) ช่วงวัยกลางคน ให้ระมัดระวังเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น
3) วัยชรา ให้รู้จักปล่อยวาง และพอใจในสิ่งที่ตนเองหามาได้
16. มันเป็นการยากที่คนเราจะมองเห็นข้อบกพร่องของตนเอง และยากยิ่งกว่าที่จะตำหนิตนเองและยินดีที่จะปรับปรุงแก้ไขในเรื่องนั้นๆ
17. จงกังวลในเรื่องต่อไปนี้
1) จงกังวลหากเราไม่เคยคิดที่จะปลูกฝังคุณธรรมไว้ในจิตใจตน
2) จงกังวลหากเรามีความเกียจคร้าน ไม่ยอมแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาการงานของตน
3) จงกังวลหากเราไม่สามารถทำใจเป็นกลางได้เมื่อฟังเรื่องราวต่าง ๆ
4) จงกังวลหากเรายังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถแก้ไขจากไม่ดีให้เป็นดีได้
18. มันเป็นการป่วยการที่จะพร่ำบ่นถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว และจงเลิกเศร้าโศกกับเรื่องในอดีต
19. เมื่อออกไปนอกบ้านให้วางตัวเสมือนว่า เราจะต้องต้อนรับแขกเหรื่อที่สำคัญ ให้เรายิ้มแย้มแจ่มใส โอภาปราศัย สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน และหากจะต้องมอบหมายงานแก่ผู้ใด ให้สร้างมโนภาพว่า เราเป็นแม่งานและให้มอบหมายงานตามความถนัดของแต่ละคน และสั่งงานด้วยความชัดเจนและรัดกุม
20. สิ่งใดที่เราไม่ชอบ ก็จงอย่าทำสิ่งนั้นกับผู้อื่น ทั้งคนในครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน และคนรอบข้าง จงอย่าสร้างศัตรูในเขตอาณาของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ อย่าทะเลาะกับคนในบ้าน คนที่ยิ่งใกล้ เราต้องยิ่งระวัง
21. ถ้าเราไม่ได้สนทนากับคนที่ควรคบหาสมาคมด้วย เราก็จะเสียคน ๆ นั้นไป และในทางกลับกัน ถ้าเราพูดคุยคบหากับคนที่ไม่ควรสุงสิง เราจะสูญเสียเวลา คนที่ฉลาดย่อมจะไม่ยอมสูญเสียทั้งคนและเวลา
22. การทำใจและก้มหน้ายอมรับชะตากรรมว่า เราเกิดมายากจน เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าการถ่อมตัวและฝืนใจที่จะไม่โอ้อวดในความร่ำรวยของตนเอง ธรรมชาติของมนุษย์เมื่อมีความร่ำรวยหรือมีสิ่งที่เหนือกว่าผู้อื่น มักชอบโอ้อวดและประกาศศักดาของตัวเอง พฤติกรรมเช่นนี้ย่อมเป็นการนำภัยมาสู่ตนเองโดยไม่รู้ตัว ขงจื๊อจึงสอนว่า เมื่อร่ำรวยแล้วไม่ควรอวดตัว แต่ให้มีความสำรวม สมถะ และมีความพอเพียง
23. หากเราคบหาสมาคมกับคนที่ไม่สำรวม ชอบทำอะไรตามอำเภอใจ วันหนึ่งเราก็จะกลายเป็นคนที่ก้าวร้าว และไม่เกรงใจคน หรือไม่ก็เป็นคนที่หวาดกลัวไม่กล้าทำอะไร
24. จงเป็นผู้ฟังที่ดี และให้ฟังหูไว้หู จงอย่าตัดสินคนจากคำพูด แต่ให้พิจารณาจากการกระทำว่า มันสอดคล้องกับสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ และที่สำคัญคือ สิ่งที่เขาพูดนั้น พูดไปเพื่อจุดประสงค์อะไร มีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่ คนที่มีคุณธรรมมักจะมีอะไรพูดอยู่เสมอ แต่คนที่พูดอยู่เสมอไม่จำเป็นต้องมีคุณธรรม คนที่ดีจะพูดช้าแต่ทำเร็ว
25. เพื่อนที่ดีจะเป็นคนซื่อตรง ซื่อสัตย์และมีความรอบรู้ แต่เพื่อนที่จะพาไปสู่ทางต่ำ จะชอบเสแสร้ง ชอบประจบสอพลอ ชอบแสร้งเอาใจประหนึ่งว่า เราจะได้ประโยชน์ตลอดเวลาหากเราคบหาสมาคมด้วย
26. คนที่โชคดีที่สุดคือ คนที่เกิดมาแล้วชาญฉลาด ถัดลงมาคือคนที่ชาญฉลาดเนื่องจากการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม รองลงมาคือผู้ที่เรียนรู้จากประสบการณ์และความผิดพลาดของตน และพวกที่ต่ำสุดคือพวกที่ประสบปัญหาแล้วไม่เคยคิดที่จะเรียนรู้หรือแก้ไขเลย
27. คนที่มีการฝึกฝนอบรมทางด้านคุณธรรมและจริยธรรมมาแล้วจะมีความสงบและเยือกเย็น ไม่อวดดีถือเนื้อถือตัว แต่คนที่ใจเล็กและคับแคบจะมีความสำคัญมั่นหมาย อวดดี ปรุงแต่งฟุ้งซ่าน ชอบเปรียบเทียบ อิจฉาริษยา วาจาไม่ระงับจิตใจยากที่จะสงบ หากพบเจอพวกนี้ให้นิ่งเฉยและถอยห่าง ฉะนั้น เราควรจะเลือกคบคนที่พูดไม่มาก เข้าใกล้แล้วสบาย สงบเยือกเย็น มีคำพูดและการกระทำสอดคล้องกัน
28. เราไม่ควรเลือกคบบุคคล ดังต่อไปนี้
     1) คนที่รักความอิสระเสรี แต่ไม่เคยมีความจริงใจกับเพื่อนมนุษย์
     2) คนที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กใสซื่อ แต่เปี่ยมไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเพทุบาย
     3) คนที่ตรงไปตรงมา แต่เชื่อถือไม่ได้
29. คนที่หมั่นศึกษาหาความรู้โดยการท่องตำราแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่นำความรู้ไปทบทวนหรือนำไปปรับใช้เปรียบได้กับ “คนตาบอด” ในขณะเดียวกัน คนที่ชอบแสดงวิเคราะห์วางแผน แสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา โดยไม่สนใจที่จะหาความรู้ใด ๆ เพิ่มเติม คนพวกนี้จะประสบภยันตรายและโอกาสที่จะคิดผิดทำผิดมีสูงมาก เพราะใช้แต่สัญชาตญาณหรือเชื่อความคิดของตนเองแต่เพียงถ่ายเดียว
30. แม้ว่าคุณจะเป็นคนดีและมีความสามารถสักปานใด ความสามารถนั้นจะไม่เกิดดอกออกผลอันใดหากคุณเป็นคนที่อวดดี ใจแคบ และตระหนี่ถี่เหนียว เพราะคุณเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการคบหาสมาคมด้วย
31. คนฉลาดจะปรับประยุกต์ให้กลมกลืนแต่จะไม่ลอกเลียนแบบ แต่คนโง่จะชอบลอกเลียนแบบและไม่คำนึงถึงการปรับใช้
Copyright © ดร.บุญชัย โกศลธนากุล, 2556


Share

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Natural Handmade Soap - HokkoriSoap      

mothercorner


How to make Easy but Cool Origami | D.I.Y. | Craft | Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF
Scribbles2 design by Bloc | XHTML | CSS

eXTReMe Tracker

กำลังโหลด...